องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย นำทีมอาสาสมัคร คนรัก “พายซัพ” ร่วมแคมเปญ “บึ๊ด จ้ำ บึ๊ด ฮึดสู้เพื่อสัตว์ฟาร์ม” ณ แม่น้ำสายที่ 2 นครชัยศรี รณรงค์ต้านเชื้อดื้อยาจากฟาร์มอุตสาหกรรมอย่างเข้มข้น

มารีญา พูลเลิศลาภ ทูตองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย ร่วมกิจกรรม “บึ๊ด จ้ำ บึ๊ด ฮึดสู้เพื่อสัตว์ฟาร์ม” ลงพื้นที่พายซัพ ล่องแม่น้ำสายที่ 2 แม่น้ำนครชัยศรี จ.นครปฐม สร้างความตระหนักรู้ถึงภัยของเชื้อดื้อยา จากฟาร์มอุตสาหกรรมที่ปนเปื้อนในแหล่งน้ำ

นักวิชาการเรียกร้อง กระทรวงศึกษาฯ ควรมีส่วนร่วมพัฒนาคนและสร้างความตระหนักรู้
• เตรียมจัดกิจกรรมใหญ่ส่งท้าย พายซัพล่องแม่น้ำเจ้าพระยา จ.กรุงเทพฯ วันที่ 21 พ.ย. 2566


ผศ.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการศูนย์เฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา เผยว่า ในวารสารการแพทย์ชื่อดัง The Lancet มีการเก็บข้อมูลจากหลายประเทศทั่วโลกระบุว่าปัจจุบันมีจำนวนผู้เสียชีวิต 44000 คน หรือ 12 คน
ต่อนาทีซึ่งปัจจัยที่ทำให้ เกิดเชื้อดื้อยามาจากทางตรงคือตัวผู้บริโภคเอง เช่น การซื้อยาปฏิชีวนะกินเองหรือกินยาไม่ครบตามแพทย์สั่ง ส่วนทางอ้อม คือ ผ่านระบบอาหารและจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันองค์กรสิ่งแวดล้อมโลกได้ให้ความสำคัญกับเรื่องเชื้อดื้อยาอย่างมากเนื่องจาก เชื้อดื้อยาส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคน และการรักษาอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการรักษาที่ยากขึ้นใช้เวลานานขึ้นรวมถึงราคายา ที่แพง ขึ้นด้วย
“รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับแผนยุทธศาสตร์ฉบับที่สอง อย่างน้อย 3 กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุขกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องเข้ามาดำเนินการอย่างจริงจัง พร้อมกันนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ก็ต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาคนเพื่อให้มีความตระหนัก รู้จักตั้งคำถาม และคิด วิเคราะห์มากขึ้น รวมถึงสิทธิ์ผู้บริโภคซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการให้ข้อมูลและที่มาของผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภค ตลอดจนการ สร้างฐานข้อมูลกลางของแหล่งสินค้าออร์แกนิกเพื่อผู้บริโภคในการเข้าถึงสินค้าปลอดภัยได้ง่ายขึ้น และสุดท้ายคือรัฐบาลควร ต้องมีหน้าที่ให้ข้อมูล และความรู้แก่ประชาชนในการเผยแพร่เรื่องเชื้อดื้อยาไปยังโรงเรียน และขยายไปยังพื้นที่ต่างๆ ให้มากขึ้นด้วย”

โชคดี สมิทธิ์กิตติผล ผู้จัดการแคมเปญระบบอาหาร องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก กล่าวทิ้งท้ายว่าเปิดเผยว่า ยาปฏิชีวนะ ส่วนใหญ่ที่ผลิตมาบนโลกใบนี้ 3 ใน 4 ผลิตมาถูกใช้ในฟาร์มปศุสัตว์ ดังนั้นโอกาสเสี่ยงที่เชื้อดื้อยาจะออก มาจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์จึงเกิดขึ้น เนื่องจากวิธีการเลี้ยงสัตว์แบบฟาร์มอุตสาหกรรม ในพื้นที่หนึ่งต้องเลี้ยงสัตว์เป็นจำนวนมาก การที่สัตว์อยู่ในพื้นที่จำกัดขาดอิสระและได้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ ส่งผลต่อความเสี่ยงในด้านการเจ็บป่วยจึงนำมาซึ่ง การใช้ยาปฏิชีวนะ เพื่อให้สัตว์สามารถทนอยู่ในสภาพแบบนั้นให้ได้ นอกจากนี้ การใช้ยาบางตัวอย่างไม่ถูกต้องเช่น โคลิสติน ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะชนิดรุนแรง จึงสร้างความกังวลแก่ผู้บริโภคอย่างมาก

“แม้ว่าประเทศไทยจะมียุทธศาสตร์ชาติเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพแต่ปัญหาการแพร่กระจายของเชื้อดื้อยา จากฟาร์มสัตว์ก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับผล “การตรวจหาแบคทีเรียดื้อยาที่สำคัญจากสิ่งแวดล้อมบริเวณฟาร์มเลี้ยงสุกรและไก่ เดือนตุลาคม 2566” ในครั้งนี้ ยังคงพบเชื้อแบคทีเรียดื้อยาที่แทบไม่ได้แตกต่างจากการตรวจเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา การพบเชื้อเหล่านี้ก่อความกังวลต่อสุขภาพ และชีวิต ของประชาชนในพื้นที่รอบๆฟาร์มอุตสาหกรรม ซึ่งบ่งชี้ว่าสวัสดิภาพสัตว์ที่ย่ำแย่ต้อตอสำคัญของการใช้ยาปฏิชีวนะแบบเกิน ความจำเป็นในฟาร์มยังคงไม่ได้รับความสำคัญมากเท่าที่ควร การส่งเสริมให้มีการใช้สารทดแทนยาปฏิชีวนะก็ไม่ได้แปลว่า สวัสดิภาพสัตว์จะดีขึ้น ดังนั้นองค์กรฯจึงเรียกร้องต่อภาครัฐให้ความสำคัญด้านการพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์ฟาร์มและการบังคับ ใช้กฎหมายห้ามใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันโรค เพื่อแก้ไขถึงวิกฤตด้านสุขภาพ ที่เราทุกคนกำลัง เผชิญอยู่ อย่างเร่งด่วน”
เราจำเป็นต้องเริ่มวันนี้ เดี๋ยวนี้ ก่อนที่เชื้อดื้อยาจากฟาร์มอุตสาหกรรมจะคร่าชีวิตเราหรือคนใกล้ตัวเรา องค์กรพิทักษ์สัตว์ แห่งโลกจึงเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทโดยตรงในเรื่องนี้ ต้องดำเนินการดังต่อไปนี้โดยเร่งด่วน ได้แก่
ยกระดับมาตรฐานขั้นต่ำสวัสดิภาพสัตว์ฟาร์มให้สูงขึ้นให้สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำในการเลี้ยงสัตว์ฟาร์มที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล (FARMS: Farm Animal Responsible Minimum Standard) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถช่วยลดความจำเป็นในการใช้ยาปฏิชีวนะลดลง
ควบคุมและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการห้ามใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อการป้องกันโรคอย่างเข้มงวดโดยเร่งด่วน เพื่อป้องกันการเข้าถึงยาปฏิชีวนะอย่างไม่ถูกต้อง รวมถึงจัดให้มีการพัฒนาความรู้ ด้านการใช้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม เพื่อหยุดปัญหาเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะที่เป็นวิกฤตสุขภาพของคนไทยในขณะนี้
ดำเนินการภายใต้แนวคิด “หลักสวัสดิภาพหนึ่งเดียว” (One Health One Welfare Concept) โดยมีการบูรณาการและการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นรูปธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาเชื้อดื้อยาทั้งในคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน
จัดทำกลไกเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมกลุ่มต่างๆ ในการติดตามและตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ร่วมติดตามความเคลื่อนไหวในกิจกรรมของโครงการ “บึ๊ด จ้ำ บึ๊ด ฮึดสู้เพื่อสัตว์ฟาร์ม” ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด
เดือนพ.ย.นี้ และติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://www.worldanimalprotection.or.th/Ban-AMR-Campaign
เฟสบุ๊ค World Animal Protection Thailand องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกประเทศไทย
#บึ๊ดจ้ำบึ๊ดฮึดสู้เพื่อสัตว์ฟาร์ม #รณรงค์เชื้อดื้อยา #WorldAnimalProtectionThailand
สืบค้นข้อมูลเพิ่มได้จาก รายงานการตรวจหาแบคทีเรียดื้อยาที่สำคัญ
จากสิ่งแวดล้อมบริเวณฟาร์มเลี้ยงสุกรและไก่ ต.ค. 2566 https://bitly.ws/Zde7
