ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลไม้ วช.แนะทางเลือกใหม่ในการใช้โดรนจัดการสวนผลไม้เชิงพาณิชย์ ช่วยลดต้นทุนด้านแรงงาน สร้างคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ต่อยอดสู่ธุรกิจที่มีมูลค่าสูง

รศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท หัวหน้าศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีหลังการ เก็บเกี่ยวและแปรรูปผลไม้ วช เปิดเผยว่า ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีหลังการเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ความเป็นศูนย์กลางด้านงาน
วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัต
กรรมทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ โดยให้การสนับสนุนการสร้างกลุ่มหรือ
เครือข่ายนักวิจัยในสถาบัน
การศึกษา สถาบันวิจัย
หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนรวมถึงพัฒนาทักษะของบุคลากรวิจัยให้มีศักยภาพ
มากขึ้น เป็นแหล่งกิจกรรมทางวิชาการ รวบรวม เผยแพร่และเป็นแหล่งอ้างอิงของ
องค์ความรู้ เฉพาะด้านที่ถูกต้อง แม่นยำตามหลักวิชาการ
อย่างต่อเนื่องในประเด็นระดับประเทศหรือประเด็นความต้องการในการแก้ปัญหาประเทศในมิติต่างๆ สามารถสร้างผลกระทบในวงกว้างในระดับประเทศพร้อมทั้งเพิ่มศักยภาพและสร้างความเข้มแข็งด้้านการวิจัยและนวัต
กรรมของประเทศไทย รวมถึงการยกระดับเครือข่ายความ
ร่วมมือ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
“ ปัจจุบันเทคโนโลยีโดรนมีความก้าวล้ำนำหน้าไปอย่างมากแต่เกษตรกรไทยยังให้
การยอมรับน้อย เพราะเป็น
เรื่องใหม่ของคนไทยและมีราคาค่อนข้างสูง เราจึงต้องการนำองค์ความรู้มาเผยแพร่ในเวทีเสวนา อว แฟร์ ในหัวข้อ การใช้โดรนทางการเกษตรในการจัดสวนผลไม้เชิงพาณิชย์ขึ้น เนื่องจากขณะนี้เรามีโดรนที่ประกอบโดยคนไทย โดรนที่คนไทยทำได้เอง และโดรนที่เป็นเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ซึ่งเกษตรกรสามารถเลือกได้ตามบริบทที่เหมาะสม จับต้องได้ก่อน หรือจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้
ตอนนี้แรงงานภาคการเกษตรมีต้นทุนสูง และขาดแคลน โดรน 1 ตัวทำงานแทนแรงงานจำนวนมาก ประหยัดเวลา นอกจากนี้ในอนาคต
ยังสามารถนำไปประกอบวิชาชีพในการสร้างงาน
สร้างอาชีพสร้างงานสร้างรายได้ นักศึกษาที่จบด้านการเกษตร ออกไปทำงานมีโดรนเพียงตัวเดียวสามารถสร้างรายได้จากการให้บริการฉีดพ่นยาและสารเคมีทางการเกษตร เลี้ยงตัวเองได้อย่างสบาย ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าธุรกิจนี้จะขยายต่อไปได้
อีกมาก เพราะปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
และความจำเป็นที่ต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย โดรนช่วยลดต้นทุนได้ถึง 50 เปอร์เซนต์ ลดค่าแรง ทำให้เกษตรกรได้กำไร และทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ”
พตอ.เกรียงศักดิ์ ธีระศรัณยานนท์ หรือผู้กำกับยอด หัวหน้าทีมนักบินโดรนและทีมแอนตี้โดรน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นโอกาสดี เป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้โดรนการ
เกษตรเป็นครั้งแรกซึ่งจะมีผลต่อการกำกับดูแลการใช้งานโดรน โดยจะมีการ
มอบอำนาจจากรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมมาให้ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือน เป็นผู้กำกับดูแล ทำให้ผู้ใช้โดรนที่มีน้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัมจะต้องมาขึ้นทะเบียน ผู้ทำการบินต้องผ่านการอบรม ผู้นำเข้าต้องขออนุญาต การมีกฏหมายจะทำให้เกิดมาตรฐาน และหลังจากนี้จะมีกฏหมายทะยอย
ออกมาอีก สิ่งเหล่านี้จะช่วยอุดช่องว่างและทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องการใช้
โดรนเพืีอการเกษตรมากขึ้น เป็นผลดีต่อวงการ